สถานการณ์โควิด-19 กาฬสินธุ์ วันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย และเตรียมพร้อมฉีดวัคซีนให้ประชาชน 7 มิ.ย.นี้

 (6 มิ.ย.64) นายทรงพล  ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดกาฬสินธุ์วันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อสะสม 121 ราย หายป่วยแล้วสะสม 99 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 18 ราย และ เสียชีวิต 4 ราย

            ผู้ป่วยรายที่ 121 เป็นเพศชาย อายุ 69 ปี อยู่ที่หมู่ที่ 8 บ้านโคกสะอาด ตำบลโนนแหลมทอง อำเภอสหัสขันธ์ มีอาชีพเป็นเกษตรกร มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไตวายเรื้อรังระยะที่ 3 โดยผู้ป่วยมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ด้วยอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน มีไอร่วมด้วย โดยผู้ป่วยรายนี้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายเดิม ของจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 5 ราย และอีก 1 ราย อยู่ระหว่างการติดตามตัว

            ทั้งนี้ จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมวัคซีนทั้งหมด 23,880 โดส ได้ฉีดให้บุคลากรการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และผู้ประกอบอาชีพเสี่ยงไปแล้ว 19,093 โดส โดยวัคซีนที่เหลือ อยู่ระหว่างการนัดหมายและจัดฉีดเพิ่มเติมต่อไป

            ประชาชนชาวกาฬสินธุ์ ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป  โดยในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 นี้ จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนผู้ลงทะเบียนที่จองวัคซีน โดยจะให้บริการประชาชน ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า และที่โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ตามคิวที่ได้นัดหมายไว้ โดยประชาชนยังสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในวาระแห่งชาติ "ฉีดวัคซีน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ผ่านอสม./รพ.สต./โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือผ่าน Platform “กาฬสินธ์ุพร้อม” http://203.157.186.19/klsmap/VACCINE/searchwl.php. และสามารถตรวจสอบคิวนัดหมายและประวัติการได้รับวัคซีนผ่าน Application “หมอพร้อม”

            อย่างไรก็ตาม จังหวัดกาฬสินธุ์ยังคงขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ใดที่เดินทางมาจากจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด ได้แก่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ให้กักตัวในที่พำนัก 14 วัน หรือตามระยะเวลาพำนักที่น้อยกว่า และให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ (ผอ.รพ.สต./กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน) หรือ อสม. 

            ท่านที่สัมผัสใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงในช่วงที่ผ่านมา ควรสังเกตอาการตนเองที่บ้าน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ถ่ายเหลว ตาแดง ผื่นขึ้น หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก โปรดแจ้งประวัติการสัมผัสกับผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้บุคลากรการแพทย์ทราบเพื่อคัดกรองความเสี่ยงด้วย

 

 

 

.............................  นางสาว ณัฏฐ์ ฐนันท์รมย์


image รูปภาพ
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar